วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560

เมืองซาเกร็บ (Zagreb) เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย

โครเอเชีย (Croatia)
• โครเอเชีย มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐโครเอเชีย เป็นประเทศในยุโรปที่มีอาณาเขตจรดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ยุโรปกลางและบอลข่าน มีเมืองหลวงชื่อซาเกร็บ โครเอเชียเคยเป็นสาธารณรัฐในยูโกสลาเวียเดิม แต่ได้รับเอกราชในพ.ศ. 2534 และได้สมัครเพื่อเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปเป็นสมาชิกลำดับที่ 28
• โครเอเชีย ตั้งอยู่ระหว่างยุโรปกลาง ยุโรปใต้ และยุโรปตะวันออก รูปร่างของประเทศคล้ายกับพระจันทร์เสี้ยวหรือเกือกม้า ซึ่งช่วยให้สามารถติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ ได้แก่ สโลวีเนีย ฮังการี เซอร์เบีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มอนเตเนโกร และอิตาลี
• เมืองซาเกร็บ (Zagreb) โครเอเชีย 
• เมืองซาเกร็บ (Zagreb) เป็นเมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ในปี พ.ศ. 2548
• เมืองซาเกร็บ (Zagreb) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของที่ราบแพนโนเนีย ซึ่งเชื่อมโยงไปยังบริเวณเทือกเขาแอลป์ เทือกเขาไดนาริกแอลป์ ทะเลเอเดรียติก และภูมิภาคแพนโนเนีย บริเวณระหว่างเนินทางใต้ของภูเขาเมดเวดนีตซา (Medvednica) กับฝั่งเหนือของแม่น้ำซาวา (Sava) มีความสูงของพื้นที่ 120 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้เมืองซาเกร็บสามารถติดต่อคมนาคมขนส่งกับภูมิภาคยุโรปกลางกับทะเลเอเดรียติกได้อย่างดีมาก
• เมืองซาเกร็บ (Zagreb) เป็นศูนย์กลางการขนส่ง อุตสาหกรรม ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ศูนย์กลางการปกครอง การบริหาร และเป็นที่ตั้งของกระทรวง หน่วยงานราชการต่าง ๆ ของประเทศ
• เมืองซาเกร็บ เป็นเมืองหลวงที่มีความโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรมและสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์มากมาย
เมืองซาเกร็บ (Zagreb) เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย
เมืองซาเกร็บ เมืองหลวงโครเอเชีย
เมืองซาเกร็บ (Zagreb) เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย
เมืองซาเกร็บ เมืองหลวงโครเอเชีย
เมืองเก่าซาเกร็บ โครเอเชีย
เมืองซาเกร็บ เมืองหลวงโครเอเชีย
วิหารเซนต์มาร์ก (St. Marks Church) เมืองซาเกร็บ โครเอเชีย
วิหารเซนต์มาร์ก โครเอเชีย

เที่ยวกรีซ 8 เมืองดัง พร้อมรีวิวเดสติเนชั่นทัวร์กรีซชั้นดีที่น่าสนใจ

ซานโตรินี (Santorini)

รู้จักกันในอีกชื่อว่า “ธีรา” (Thera) เกาะสวรรค์ของกรีซที่มีความสวยงามสะกดใจของธรรมชาติ ภูมิประเทศและสถาปัตยกรรมหมู่บ้านสีขาวหลังคาทรงโดมสีน้ำเงินโดดเด่น กิจกรรมยอดฮิตที่มาเกาะนี้แล้วห้ามพลาด คือ การไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่เขาว่าสวยที่สุดกันที่หมู่บ้านเอีย (Oia) ส่วนที่เที่ยวบนเกาะอื่นๆ ก็มีอีกหลายแห่ง เช่น ประภาคารฟาโรส (Faros) หาดหินแดง (Red Beach) หาดทรายดำ (Black Beach) หาดทรายขาว (White Beach) เมืองโบราณอะโกติรี (Akrotiri) และพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟและไวน์ (Volcano Wines Museum & Winery)
ไปเที่ยวช่วงไหนดี ฤดูท่องเที่ยวเริ่มจากเดือนเมษายน-เดือนตุลาคม

เอเธนส์ (Athens)

เมืองหลวงของประเทศและดินแดนอารยธรรมที่มีอายุเก่าแก่กว่าสามพันปี เป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมตะวันตกและระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย เอเธนส์มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง เช่น เขตมรดกโลกอะโครโปลิส (Acropolis) จัตุรัสซินตักมา (Syntagma Square) วิหารเทพเจ้าซุส (Temple of Olympian Zeus) อัฒจันทร์โอลิมปิก (Panathinaiko Stadium) เมืองเก่าอะโกร่า (Ancient Agora) พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ (National Historical Museum) พิพิธภัณฑ์อะโครโปลิส (New Acropolis Museum) และสวนสาธารณะเอเธนส์ (The National Garden of Athens) เป็นต้น
ไปเที่ยวช่วงไหนดี ฤดูท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคมและระหว่างเดือนกันยายน-เดือนพฤศจิกายน

มิโคนอส (Mykonos)

เกาะท่องเที่ยวยอดนิยมในทะเลอีเจียน เกาะแห่งนี้เป็นที่ตั้งของเมืองโชรา (Chora) เมืองตากอากาศขึ้นชื่ออีกเมืองหนึ่ง ซึ่งได้ฉายาว่าเป็น “ลิตเติ้ลเวนิส” เพราะมีทั้งท่าเรือและบ้านเรือนน่ารักเหมือนนิยายโรแมนติกเช่นเดียวกับเวนิส ที่เที่ยวน่าสนใจบนเกาะนี้ เช่น กังหันลมโบราณ (The Windmills) พิพิธภัณฑ์ลีน่า (Lena's House Museum) เขตเมืองเก่าคาสโตร (Kastro) โบสถ์ปานาเกีย พาราพอร์ทเตียนี (Panagia Paraportiani Church) หาดเอเลีย (Elia Beach) หาดอากีออส ไอโออันนิส (Agios Ioannis Beach) และเขตมรดกโลกเกาะเดลอส (Delos)
ไปเที่ยวช่วงไหนดี ฤดูกาลท่องเที่ยวจะอยู่เริ่มตั้งแต่ราวเดือนพฤษภาคม-เดือนสิงหาคม

โรดส์ (Rhodes)

เกาะท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่รับประกันว่า 300 วันต่อปีจะมีอากาศดี-แดดออก เหมาะแก่กิจกรรมท่องเที่ยวทางทะเล นอกจากนั้นโรดส์ก็ยังที่เที่ยวแนวประวัติศาสตร์ให้ได้ชมอีกด้วย ที่เที่ยวน่าสนใจ เช่น ปราสาทคาสเตลลอส (Castle of Kastellos) ปราสาทโมโนลิโตส (Castle of Monolithos) ซากเมืองโบราณคามิรอส (Kamiros) ซากเมืองโบราณภูเขาฟิเลอริมอส (Filerimos Hill) จุดชมวิวแหลมปราโซนิซี (Cape Prasonisi) เขตเมืองเก่าโรดส์ (Rhodes Old Town) สวนผีเสื้อ (Valley of the Butterflies) หาดลินดอส (Lindos) หาดไฟรากิ (Faliraki) และหาดเกนนาดิ (Gennadi Beach)
ไปเที่ยวช่วงไหนดี เกาะแห่งนี้สามารถมาเยือนได้ตลอดปี

เดลฟี (Delphi)

เมืองโบราณยอดนิยมของประเทศ เป็นที่ตั้งของสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ของกรีกโบราณที่มีความสำคัญและอลังการรองลงมาจากเมืองเก่าอะโครโปลิสในเอเธนส์ เดลฟีเป็นเมืองที่สร้างขึ้นเพื่อถวายแก่เทพเจ้าอะพอลโล (Apollo) มีความเชื่อกันว่าเมืองนี้เป็นศูนย์กลางของโลก สถานที่เที่ยวโดดเด่นในเมืองโบราณนี้ เช่น วิหารอะพอลโล (Temple of Apollo) น้ำพุศักดิ์สิทธิ์แห่งคัสตาเลียน (Castalian Spring) พิพิธภัณฑ์เดลฟี (Delphi Museum) อัฒจันทร์โบราณ และภูเขาปาร์นัสซุส (Mt. Parnassus)
ไปเที่ยวช่วงไหนดี ฤดูท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคมและระหว่างเดือนกันยายน-เดือนพฤศจิกายน

ชาเนีย (Chania)

เมืองเก่าริมหาดที่สร้างขึ้นในสมัยที่เวเนเชียน (Venetian) และตุรกี (Turkish) เข้ามารุ่งเรืองในแถบนี้ และถูกใช้เป็นเมืองท่าหลักเพื่อการค้าขายโพ้นทะเลเสมอมา ที่เที่ยวเมืองนี้มีทั้งแนวประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม บันเทิงและธรรมชาติ เช่น ตลาดการค้ากลางเมือง (Chania Municipal Agora) โบสถ์ตริมาติติแห่งชาเนีย (Chania Cathedral Trimartiti) โบสถ์คาทอลิก (Our Lady Catholic Church) อนุสรณ์สถานเฮย์ยิม (Etz Hayyim Synagogue) จัตุรัสสปลาตเซีย (Splatzia Square) โตรกธารซามาเรีย(Samaria Gorge) และท่าเรือเก่าเวเนเชียน (The Venetian Port)
ไปเที่ยวช่วงไหนดี ฤดูกาลท่องเที่ยวอยู่กลางช่วงฤดูร้อนราวเดือนเมษายน-เดือนตุลาคม

เทสซาโลนิกิ (*Thessaloniki*)

เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศและเป็นศูนย์กลางของอารยธรรมมาซีโดเนียน (Macedonian) เป็นเมืองวัฒนธรรมของกรีซที่มีสีสันของเทศกาลและงานรื่นเริงมากมาย ที่เที่ยวน่าสนใจมีหลายแห่ง เช่น กำแพงโบราณยุคไบเซนไทน์ (Byzantine walls) หอคอยขาว (White Tower) ป้อมเอปตาเปอร์เจียน (Eptapyrgion fort) เขตมรดกโลกกลุ่มโบสถ์ไบเซนไทน์ (The Byzantine Churches) ตลาดอัญมณีเบเซสตานิ (Bezesteni) พิพิธภัณฑ์เทสซาโลนิกิ (Archaeological Museum of Thessaloniki) พิพิธภัณฑ์ไบเซนไทน์ (Museum of Byzantine Culture) และหอดาราศาสตร์เทสซาโลนิกิ (Thessaloniki Science Center and Technology Museum)
ไปเที่ยวช่วงไหนดี ฤดูกาลท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนเมษายน-เดือนตุลาคม

เคโอส (Kos)

อีกหนึ่งเกาะท่องเที่ยวในทะเลอีเจียน จุดหมายฮันนีมูน แหล่งกิจกรรมทางน้ำและสถานที่จัดงานแต่งงานยอดฮิต และยังเป็นแหล่งเกษตรกรรมสำคัญ เช่น ไร่องุ่น สวนอัลมอนด์ สวนมะเดื่อ สวนมะกอก ไร่ข้าวโพดและสวนมะเขือเทศ ที่เที่ยวที่น่าสนใจ เช่น จุดดำน้ำตื้นหาดอะกิออส สเตฟานอส (Agios Stefanos Beach) น้ำพุร้อน (Hot Spring) ย่านเมืองเก่าเคโอส (Kos Town) หาดอะกิออส โฟกัส(Agios Fokas) และเขตนักท่องเที่ยวคาร์ดามินา (Kardamena)
ไปเที่ยวช่วงไหนดี ฤดูท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนมิถุนายน-เดือนกันยายน

คอร์ฟู (Corfu)

แหล่งวัฒนธรรมสำคัญของกรีกยุคใหม่ เป็นดินแดนที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมเวเนเชียน (จากอิตาลี) ฝรั่งเศสและอังกฤษ เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่สวยงามและมีความลงตัวของวัฒนธรรมอันแตกต่าง ที่เที่ยวน่าสนใจมีหลายแห่ง เช่น หมู่บ้านชาวประมงดั้งเดิมเบนิตซิส (Benitses) หมู่บ้านโบราณเปอริเธีย (Old Perithia) เขตเมืองเก่าคอร์ฟู (Corfu Old Town) พระราชวังเก่าของเซนต์ไมเคิลและเซนต์จอร์จ (Palace of St. Michael and St. George) พระราชวังอาชิเลียน (Achilleion) หาดกัสสิโอปิ (Kassiopi) และหาดเมสซองงิ (Messonghi beach)

10 สถานที่ท่องเที่ยวปารีส นครแห่งศิลปะ ความงาม และความโรแมนติก

มหาวิหารนอเทรอดาม (Notre Dame Cathedral หรือ Notre Dame de Paris)

มหาวิหารนอเทรอดาม (Notre Dame Cathedral หรือ Notre Dame de Paris) กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
เป็นศาสนสถานนิกายคอทอลิกที่สำคัญของฝรั่งเศส เพราะเคยเป็นศูนย์กลางของเมืองในยุคกลาง (Medieval) จนถึงปัจจุบัน เป็นหนึ่งในมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สถาปัตยกรรมของมหาวิหารนี้ใช้ศิลปะที่ละเอียดอ่อนสไตล์กอธิก (Gothic) ใช้โครงสร้างที่เป็นไม้ และใช้วัสดุอื่นๆ อีก เช่น หิน ตะกั่ว และกระจกสี ภายในวิหารมีรูปปั้นและภาพจิตรกรรมที่สวยงามเกี่ยวกับพระแม่มารี และต้องขึ้นบันไดมากถึง 387 ขั้นเพื่อไปถึงยอดของโบสถ์ เรียกได้ว่า มหาวิหารนอเทรอดามแห่งนี้มีทั้งความงดงามและใหญ่โตหรูหรามากทีเดียว

แม่น้ำแซน (Seine River หรือ La Seine à Paris)

แม่น้ำแซน (Seine River หรือ La Seine à Paris) กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
พลาดละถ้าคุณไม่ได้มาชมพระอาทิตย์ตกที่แม่น้ำแซน ซึ่งไหลผ่านสถานที่สำคัญและย่านสวยงามของกรุงปารีส ทั้งหอไอเฟิล มหาวิหารนอเทรอดาม แกรนด์พาเลส (Grand Palais) พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ พิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ โบสถ์แซงต์ชาแปลล์ เป็นต้น เราขอแนะให้ล่องเรือยามใกล้ค่ำเพื่อที่จะได้ฟินกับการชมทิวทัศน์ของเมืองและสถาปัตยกรรมสวยงามยามต้องแสงอาทิตย์สีส้มและยามต้องแสงไฟในช่วงราตรี

ถนนฌ็องเซลิเซ่และประตูชัยนโปเลียน (Champs-Élysées & Arc de Triomphe)

ถนนฌ็องเซลิเซ่และประตูชัยนโปเลียน (Champs-Élysées & Arc de Triomphe) กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ถนนฌ็องเซลิเซ่ได้รับขนานนามว่า ถนนที่สวยงามที่สุดในกรุงปารีส ซึ่งเริ่มต้นจาก Place de la Concorde เป็นที่ตั้งของพลาซ่าที่มีอนุสาวรีย์ยอดพีระมิดสไตล์อียิปต์ ผ่านกรองด์ปาเลส์ (Grand Palais) เปอตีปาเลส์ (Petit Palais) โรงละครรงปวง (Rond-Point) โรงละครมาริก์นี่ (Marigny) และย่านช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม ถนนสายนี้ไปจรดที่ประตูชัยนโปเลียนหรือประตูชัยปารีส ฝรั่งเศส อนุสรณ์สถานสำหรับนโปเลียนและผู้ที่ต่อสู้และนำชัยชนะของสงครามปฏิวัติฝรั่งเศสและสงครามนโปเลียน เราสามารถขึ้นไปชมชั้นบนของประตูชัยได้ จากจุดสูงของประตูชัยนี้ คุณจะได้ชมและเก็บภาพถนนฌ็องเซลิเซ่และถนนสายอื่นๆ รวม 12 สายที่ทอดยาวมุ่งสู่ประตูชัยนี้

พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum หรือ Musée du Louvre)

พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum หรือ Musée du Louvre) กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
เดิมทีเคยเป็นพระราชวังหลวงก่อนที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 จะย้ายไปประทับที่พระราชวังแวร์ซายส์ ปัจจุบันลูฟร์ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกจำนวนมาก รวมไปถึงภาพโมนาลิซ่า ศิลปะภาพวาดชิ้นเอกของโลกด้วย ไม่เพียงแต่ศิลปะภาพวาดและโบราณวัตถุฝรั่งเศสเท่านั้น แต่เราจะได้ยลภาพวาด รูปปั้น และวัตถุโบราณจากอียิปต์ กรีก โรมัน เอทรุสแกน (Etruscan กลุ่มชนอารยธรรมที่อยู่บริเวณตอนกลางของอิตาลี่) ตะวันออกกลาง และศิลปะของอิสลามอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวในปารีสที่ต้องไปเยือน เพราะมีทั้งสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามและเป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

โรงละครปาเลส์การ์นิเย่ (Palais Garnier)

โรงละครปาเลส์การ์นิเย่ (Palais Garnier) กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
เป็นโรงละครโอเปร่าแห่งชาติ ซึ่งสามารถจุคนได้ถึง 1,979 ที่นั่ง ชื่อนี้ใช้เรียกขานตามผู้สร้างชาร์ส การ์นิเย่ (Charles Garnier) ซึ่งได้ออกแบบได้อย่างวิจิตรตระกานตาและหรูหราอย่างยิ่ง และถูกจัดเป็นศิลปะชิ้นเอกด้านสถาปัตยกรรมโรงละครของศตวรรษที่ 19 ต่อมาได้เพิ่มให้มีห้องสมุดและสถานที่แสดงนิทรรศการโดยเฉพาะด้านศิลปะการแสดง และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสถานที่สำคัญอื่นๆ ของโลก เช่น ห้องสมุดคองเกรสที่กรุงวอชิงตัน โรงละครฮานอยที่เวียดนาม โรงละครริโอเดอจาเนโรและโรงละคอะเมซอนที่บราซิล

โบสถ์แซงต์ชาแปลล์ (Sainte Chapelle)

โบสถ์แซงต์ชาแปลล์ (Sainte Chapelle) กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

เป็นโบสถ์ที่ใช้สำหรับสวดมนต์ของราชวงศ์โดยเฉพาะ ซึ่งใช้ศิลปะสไตล์กอธิคในช่วงยุคกลางและประดับด้วยกระจกสีสไตล์ศตวรรษที่ 13 ที่สวยงามมากมายจนเรียกได้ว่า เป็นสถานที่ที่มีคอลเล็คชั่นกระจกสีของศตวรรษนี้มากที่สุดเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นโบสถ์ขนาดเล็ก แนะนำว่า ไปช่วงเช้าจะดีที่สุดเพราะยังมีนักท่องเที่ยวไม่เยอะและจะได้เที่ยวสบายๆ

ซาเคร-เกอร์ บาซิลิก้า (Sacré-Cœur Basilica หรือ Basilique du Sacré-Cœur)

ซาเคร-เกอร์ บาซิลิก้า (Sacré-Cœur Basilica หรือ Basilique du Sacré-Cœur) กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ชื่อเต็มคือ The Basilica of the Sacred Heart of Paris หรือบาซิลิก้า หัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของปารีส ตั้งอยู่บนยอดของเนินเขามงต์มาร์ทร์ (Montmartre) อยู่ทางทิศเหนือของปารีส เป็นอนุสรณ์สถานที่อุทิศแด่ชาวฝรั่งเศสซึ่งเสียชีวิตจากสงครามกับเยอรมนี โดยใช้ศิลปะสไตล์โรมัน-ไบเซนไทน์และประกอบด้วยสวน น้ำพุ หอระฆัง และตัวอาคารที่มียอดเป็นลักษณะโดมและตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสก ที่โดมกลางซึ่งสูงที่สุดของอาคารนั้นเปิดให้เราขึ้นไปชมวิวปารีสแบบพาโนราม่าได้

พระราชวังลักเซมบูร์ก (Luxembourg Palace หรือ Palais du Luxembourg)

พระราชวังลักเซมบูร์ก (Luxembourg Palace หรือ Palais du Luxembourg)
เดิมถูกสร้างเพื่อเป็นที่ประทับของพระนางมารี เมดิซี (Marie de Médicis) มารดาของพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 หลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศส วังแห่งนี้ก็ได้รับการดัดแปลงให้เป็นอาคารรัฐสภา ส่วนทิศเหนือของตัววังก็ปรับให้เป็นที่พักของประธานสภาสูง อาคารทางทิศตะวันตกก็ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ทางทิศใต้ของวังเป็นสวนขนาดใหญ่อลังการ (10 ไร่) ประกอบด้วยสระน้ำ รูปปั้นของราชินีฝรั่งเศสและนักบุญต่างๆ ต้นไม้ ไม้ดอกและไม้ประดับที่จัดไว้อย่างสวยงามลงตัว มุมตะวันตกเฉียงใต้ของสวนนี้มีเวทีละครหุ่นท่ามกลางสวนแอ๊ปเปิ้ลและลูกแพร ใกล้ๆ กันนี้ มีศาลาพักผ่อน ซึ่งจะมีการแสดงดนตรีฟรี ร้านกาแฟ และร้านอาหารให้พักผ่อนหย่อนใจ ใครที่ชอบชมความงามทางศิลปะและจิบกาแฟผ่อนคลายในสวนสวย ที่นี่ใช่แน่

พิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ (Orsay Museum หรือ Musée d'Orsay)

พิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ (Orsay Museum หรือ Musée d'Orsay) กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
อีกพิพิธภัณฑ์หนึ่งที่จัดอยู่ในรายการต้องไปเยือน เพราะที่นี่รวบรวมศิลปะหลายแขนงของฝรั่งเศส ได้แก่ จิตรกรรม ปฏิมากรรม เฟอร์นิเจอร์ และภาพถ่าย ในปีค.ศ. 1848-1915 โดยมีคอลเล็คชั่นศิลปะชิ้นเอกของสมัยอิมเพรสชั่นนิสซึ่ม (Impressionism) และหลังสมัยอิมเพรสชั่นนิสซึ่ม (Post-impressionism) มากที่สุดในโลก ซึ่งรวมทั้งภาพวาดของศิลปินชื่อดังอย่าง Monet, Manet, Renoir และ Van Gogh นอกจากจะได้ชมศิลปะสวยๆ แล้ว บอกได้เลยว่า คุณจะได้เต็มอิ่มกับสถาปัตยกรรมอันสวยงามของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ซึ่งเดิมทีสร้างเพื่อเป็นสถานีรถไฟ

วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560

10 ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนแห่งความฝัน

1. ชมงานศิลป์ที่เมือง Basel
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย basel
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย basel 
เมืองนี้เป็นอีกเมืองที่รวบรวมงานศิลปะสวย ๆ เอาไว้ด้วยกัน โดยเฉพาะที่ Fondation Beyeler ที่รวบรวมภาพเขียนของศิลปินชื่อดังตั้งแต่ใอดีตหลายคน ยกตัวอย่างเช่น Bacons, Monets และ Picassos นอกจากนี้ ในเมือง Basel ยังมี Kunstmuseum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ที่รวบรวมงานศิลป์สวย ๆ ทั้งแนวย้อนยุคและแบบร่วมสมัยอีกเอาไว้อีกด้วย เรียกได้ว่า ผู้ที่รักศิลปะนั้นไม่ควรพลาดเด็ดขาด
2. สัมผัสวิวแม่น้ำสวย ๆ ได้ที่นี่
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย  rhine river   
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย  rhine river
สมัยนี้การจะมองหาทิวทัศน์ของแม่น้ำลำธารสวย ๆ ใสสะอาดเหมือนสมัยก่อนนั้นเป็นเรื่องที่ยากเต็มที เพราะคนไม่รู้จักรักษาสิ่งแวดล้อม ขยันทิ้งขยะลงแม่น้ำกันเป็นประจำ แถมยังได้รับมลพิษจากของเสียที่ถูกปล่อยออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ อีกด้วย แต่ไม่ใช่กับประเทศนี้ เพราะมีการรักษาความสะอาดกันเป็นอย่างดี ทำให้น้ำในแม่น้ำที่นี่ยังคงใสสะอาด และยังมีแม่น้ำจำนวนมากกว่า 10 สาย ให้เราได้เลือกพักผ่อนหย่อนใจริมแม่น้ำได้ตามใจชอบ เช่น แม่น้ำอาเร, แม่น้ำโป และแม่น้ำไรน์ซึ่งมีความยาวมากที่สุดในประเทศ ด้วยความยาวถึง 375 กิโลเมตร
3. แวะเล่นสกีที่ Zermatt
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย  zermatt
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย  zermatt
เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อย่างเมือง Zermatt นั้น มีจุดเด่นอยู่ที่ภูเขา Matterhorn ที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นมาชมวิวที่ยอดเขา และเล่นสกีกันที่นี่ ทำให้โรงแรมในแถบนั้นมีแขกพักเต็มอยู่เสมอ จนบางครั้งก็ถึงกับต้องจองกันล่วงหน้าเป็นเวลาหลายเดือนเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ถ้าใครวางแผนจะไปเที่ยวที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ล่ะก็ อย่าลืมเพิ่มทริปเล่นสกีที่ Zermatt เข้าไปในโปรแกรมของคุณด้วย
4. สิ่งก่อสร้างก็โดดเด่นไม่แพ้ที่ไหนๆ
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย สถาปัตยกรรมสวิตเซอร์แลนด์
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย สถาปัตยกรรมสวิตเซอร์แลนด์
สถาปัตยกรรมของที่นี่ ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้สิ่งแวดล้อมจากธรรมชาติรอบข้าง เพราะสวิตเซอร์แลนด์ขึ้นชื่อในเรื่องสิ่งก่อสร้างสวยงามค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นแบบย้อนยุคคลาสสิกที่พบได้ในแถบชานเมือง หรือแบบโมเดิร์นสมัยใหม่เก๋ ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปในประเทศแห่งนี้ เพราะฉะนั้น หากมีเวลาก็อย่าลืมลองเดินท่องเที่ยว เพื่อสำรวจและซึมซับสถาปัตยกรรมที่งดงาม เป็นเอกลักษณ์สวิตเซอร์แลนด์กันนะ
5. แหล่งรวมสปาชั้นยอด
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย สปาสวิตเซอร์แลนด์
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย สปาสวิตเซอร์แลนด์
สำหรับใครที่ต้องการจะผ่อนคลายความเมื่อยล้า หรือบำรุงผิวสวย ๆ ของตัวเอง สปาของที่นี่จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะประเทศสวิตเซอร์แลนด์ขึ้นชื่อเรื่องการทำสปากันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ที่นี่จึงมีสปาชั้นดีให้คุณเลือกใช้บริการได้มากมาย แถมยังมีหลากหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น การนวดตัว หรือสปาช็อกโกแลต ที่ให้คุณได้เข้าไปอาบน้ำบำรุงผิวในบ่อช็อกโกแลตซะด้วย...ว้าว!
6. Helvetia เมืองที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย  helvetia botanical garden
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย  helvetia botanical garden
หากคุณเป็นอีกคนที่กำลังมองหาที่พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ และสามารถเพลิดเพลินกับความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ Helvetia จะเป็นอีกเมืองที่คุณไม่ควรพลาด เพราะที่นั่นเป็นเมื่องที่เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน และยังมีธรรมชาติสวยงามให้ชมอีกด้วย โดยเฉพาะที่สวน Botanical Garden ในเกาะใจกลางแม่น้ำ Maggiore ซึ่งรวบรวมดอกไม้นานาพันธุ์ไว้ด้วยกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติได้เข้าชม
7. พักผ่อนริมน้ำตก Trummelbach falls 
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย  Trummelbach falls
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย  Trummelbach falls
Trummelbach falls เป็นชื่อของน้ำตกธรรมชาติ 10 สาย อันสวยงามที่ไหลลงท่ามกลางหุบเขา ด้วยความสูงถึง 140 เมตร รับรองได้ว่าใครที่มีโอกาสได้ไปดู จะต้องประทับใจในความงดงามของมันอย่างแน่นอน ทั้งนี้ หากคุณต้องการจะสัมผัสความงามของน้ำตกนี้อย่างใกล้ชิด ก็สามารถจ่ายเงินเพื่อเข้าชมน้ำตกภายในตัวภูเขาได้ ด้วยราคาเพียงแค่ 10 เหรียญเท่านั้น
8. ใกล้ชิดสัตว์ที่ Swiss National Park
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย  Swiss National Park
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย  Swiss National Park
ที่นี่เป็น National Park แห่งเดียวของประเทศสวิตเซอรแลนด์ ซึ่งให้สัตว์ได้อยู่กันตามธรรมชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ห่าง ๆ และเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ โดยสวนแห่งนี้มีขนาดใหญ่ถึง 172.3 ตารางกิโลเมตร ส่วนสัตว์ที่สามารถพบได้ที่นี่ ได้แก่ นกอินทรีทอง นกแร้งเครา แพะภูเขา ตัวมาเมิต เลียงผา และกวางเอลค์
 9. อิ่มอร่อยที่ Piz Gloria
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย  Piz Gloria
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย  Piz Gloria 
Piz Gloria เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนยอดเขา Schilthorn จึงเป็นแหล่งที่ผู้คนนิยมมาชมวิวของภูเขากันจากที่นี่ นอกจากนี้ ร้านนี้ยังเคยเป็นสถานที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง James Bond ภาค On Her Majesty’s Secret Service มาก่อน จึงทำให้มีของที่ระลึกจากภาพยนตร์เรื่องนี้ขายเป็นจำนวนมาก แถมยังมีบาร์ชื่อ James Bond อยู่ภายในร้านอีกด้วย ส่วนอาหารจานเด็ดของที่นี่ ได้แก่ มันฝรั่งทอดแบบสวิส ชีสฟองดู และ สปาเก็ตตี้เจมส์ บอนด์
 10. แดนสวรรค์ของคนรักช็อกโกแลต
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย Museo Storico Di Blenio
ที่เที่ยว เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เที่ยวสวย Museo Storico Di Blenio
ช็อกโกแลตของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ดังนั้น เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ไม่ควรพลาดลองช็อกโกแลตโฮมเมดตามร้านคาเฟ่ต่าง ๆ เด็ดขาด นอกจากนี้ คุณยังควรแวะชมพิพิธพัณฑ์ Museo Storico Di Blenio ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมศิลปะต่างๆ รวมถึงเรื่องราวเกี่ยวกับช็อกโกแลตตั้งแต่สัยโบราณเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องผลิต รูปภาพ และโฆษณาช็อคโกแลตในสมัยก่อนอีกด้วย

13 สถานที่ท่องเที่ยวน่าไปของประเทศฟินแลนด์

1. ปราสาทหิมะ (Snow Castle) เมืองเคมิ


เที่ยวฟิแลนด์ snow castle
ปราสาทที่สร้างอย่างอลังการจากหิมะและน้ำแข็งบนพื้นที่รวมกว่า 20,000 ตารางเมตร ปราสาทแห่งนี้มีขนาดเท่าเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งเลยทีเดียว โดยสร้างขึ้นจากการเจาะและแกะสลักน้ำแข็งอย่างปราณีตงดงาม ถือเป็นงานประติมากรรมน้าแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ภายในเมืองน้าแข็งแห่งนี้ประกอบด้วยสถานที่ต่างๆซึ่งตกแต่งอย่างแปลกตามากมาย อาทิเช่น สโนว์เรสเตอรอง (Snow Restaurant) ภัตตาคารซึ่งเฟอร์นิเจอร์ต่างๆล้วนทำขึ้นจากน้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะหรือเก้าอี้ สโนว์โฮเทล (Snow Hotel) ห้องพักสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งมี เตียงที่ทำขึ้นจากน้ำแข็ง และตามผนังก็มีการแกะสลักลายน้ำแข็งไว้อย่างสวยงาม รวมถึงสโนว์แชปเพล (Snow Chapel) หรือโบสถ์น้ำแข็ง ซึ่งมีไว้รองรับคู่บ่าวสาวที่ต้องการจัดงานแต่งงานแบบไม่เหมือนใคร

2. หมู่บ้านซานตาคลอส (SANTA CLAUS VILLAGE)


เที่ยวฟินแลนด์ สแกนดิเนเวีย 2 SANTA CLAUS VILLAGE4-tile
หมู่บ้านซานตาคลอส เมืองโรวาเนียอามิ ตั้งทางอยู่เหนือขึ้นไปจากเฮลซิงกิกว่าพันกิโลเมตร ที่เส้น Arctic Circle โรวาเนียอามิ เป็นเมืองหลวงของแลปแลนด์ แล้วก็เป็นบ้านเกิดและที่อยู่ของ ซานตาคลอสอย่างเป็นทางการ ฉะนั้น ที่เที่ยวยอดนิยมของที่นี่จึงหนีไม่พ้น Santa Claus Village ดินแดนซานตาคลอส แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อให้เด็กๆ ทั่วโลกมีโอกาสมาเยี่ยมบ้านของลุงซานต้า ที่หมู่บ้านนี้มีลานเล่นสนุกและกิจกรรมสนุกๆเกี่ยวกับหิมะมากมาย มีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ฟาร์มน้องหมา ฮัสกี้ ฟาร์มกวางเรนเดียร์ มีบ้านและออฟฟิศของซานตาคลอสซึ่งภายในตกแต่งด้วยสีสันสดใส นอกจากนี้ยังมีที่ทำการไปรษณีย์ซานต้า,ร้านขายของขวัญ,งานหัตถกรรม และของที่ระลึกต่างๆมากมาย และที่ขาดไม่ได้คือลุงซานต้าตัวจริงเสียงจริงที่คอยต้อนรับและอวยพรให้นักท่องเที่ยว

3. ทริปล่องเรือตัดน้ำแข็งซัมโป (SAMPO ICE BREAKER)


3 SAMPO ICE BREAKER 4-tile
ทริปล่องเรือตัดน้ำแข็งซัมโป ที่เมืองเคมิ (KEMI) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมริมอ่าวน้ำลึกบอธเนีย บริเวณทางตอนเหนือของทะเลบอลติค เมืองนี้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกด้วยทริปล่องเรือซัมโป กิจกรรมยอดนิยมของดินแดนขั้วโลกเหนือที่ไม่ควรพลาด สัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจของการล่องเรือตัดน้ำแข็งฝ่าหิมะและความหนาวเย็นผ่านทุ่งทะเลน้าแข็งอันกว้างใหญ่ โดยทางเรือจะมีชุดความร้อนพิเศษไว้แจกนักท่องเที่ยว (WARM IMPERMEABLE SURVIVAL SUITS) ซึ่งสามารถปกป้องร่างกายจากความหนาวเย็นระดับลบยี่สิบองศาเซลเซียสได้เป็นอย่างดี

4. KOTA Village กระท่อมที่พักสุดชิคกลางทุ่งหิมะ


เที่ยวประเทศฟินแลนด์ 4 KOTA Village2-tile
KOTA Village เมืองแลพแลนด์ โดยมีกิจกรรมยอดนิยมคือการชม NorthernLights หรือ Aurora แสงเรืองงดงามหลากหลายสีที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าในเวลากลางคืน ปรากฏการณ์สุดมหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นเฉพาะในเขตขั้วโลกเหนือโดยจะเกิดในชั้นบรรยากาศที่มีความสูงจากพื้นโลก ประมาณ 100 ถึง 200 กิโลเมตร บางครั้งปรากฏ เป็นวงนิ่ง แล้วระเบิดออกมาเป็นสีต่าง ๆ บางทีก็เป็นแสงหลากสีวิ่งไปวิ่งมาอย่างสวยงาม นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมสนุกๆของชาวขั้วโลกเหนืออีกมากมายเช่น การนั่งรถเลื่อนที่ลากด้วยกวางเรนเดียร์ (Reindeer Sleigh)

5. ต้นไม้แช่แข็งแห่งอาร์คติค (Sentinels of the Arctic, Finland)


5 Sentinels of the Arctic 4-tile
ทุ่งน้าแข็งที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เป็นอีกทริปที่พลาดไม่ได้ ตั้งอยู่ในเขตเมืองแลพแลนด์ (Lapland) ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด หนาวที่สุดและตั้งอยู่ทางเหนือสุดของประเทศ ฤดูหนาวในเขตนี้อากาศจะเย็นจัดลงอย่างรวดเร็วมาก ด้วยอุณหภูมิที่ลดลงต่ำกว่า -15 ถึง -40 องศาเซลเซียส ทำให้ต้นไม้ทั่วทั้งป่าถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง ประกอบกับหิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้พื้นที่ทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ทำให้ต้นไม้แช่งแข็งเหล่านี้ดูโดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางพื้นหิมะ จนดูเหมือนเป็นทหารยามที่คอยตรวจตราในบริเวณอาร์คติก จนกลายเป็นที่มาของชื่อ Sentinels of the Arctic

6. Petäjävesi Old Church มรดกโลกของฟินแลนด์


เที่ยวฟินแลนด์ 6 Old Church 1-tilex
ตั้งอยู่ที่เมือง Petäjävesi ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 1994 เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างด้วยไม้ มีเอกลัษณ์ที่โดดเด่นสวยงามตามแบบโบสถ์ในแถบสแกนดิเนเวียน . . . ตัวโบสถ์ตั้งอยู่ริมลำธารเล็กๆ มีต้นไม้เรียงรายอยู่โดยรอบทำให้ถ่ายภาพโบสถ์ออกมาแล้วจะดูสวยด้วยฉากธรรมชาติ ตัวโบสถ์นั้นจะแบ่งเป็นสองส่วน คือส่วนที่เป็นหอระฆัง และส่วนที่เป็นตัวโบสถ์ลักษณะคล้ายกระท่อมขนาดใหญ่ เป็นโบสถ์ในลัทธิลูเธอร์รัน สร้างขึ้นในระหว่างปี 1763 -1765 โดยเป็นผลงานของ Jaakko ช่างไม้ที่ชื่อเสียงจากเมืองLaukaa ภายในโบสถ์ตกแต่งด้วยการใช้สีแดงวาดลวดลายตามรอยต่อของไม้ดูเรียบง่าย แต่มีเอกลักษณ์ในตัว ความโดดเด่นอีกอย่างคือส่วนที่เป็นฐานของธรรมาสน์ จะมีไม้แกะ สลักอย่างงดงามสีสันสดใส เป็นรูปหน้าของ St.Christopher ซึ่งเรียกกันว่า The paint of pulpit

7. วิหารอุสเพนสกี้ วิหารสไตล์ออโธดอกส์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป


เที่ยวประเทศฟินแลนด์ 7 Uspenski Orthodox Cathedral 1-tile
สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ งดงามแปลกตาด้วยสถาปัตยกรรมแบบรัสเซีย มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจากการใช้เป็นสถานที่ถ่ายทําภาพยนตร์รางวัลออสการ์เรื่อง “เรดส์ วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1864 ออกแบบและก่อสร้างโดย AlekseiGornostajev โดยใช้เวลาก่อสร้างถึง 6 ปีเศษ ด้านนอกวิหารมีสีสันแปลกตาซึ่งหาดูได้ยาก โดยตัววิหารเป็นสีน้ำตาลอิฐ โดมสีฟ้าอ่อน และยอดโดมเป็นสีทอง  ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยสีทองและอัญมณี มหาวิหารอุสเปนสกี้นี้ถือเป็นเครื่องแสดงถึงความสัมพันธ์ของฟินแลนด์กับ รัสเซียโดยที่รัสเซียเคยปกครองฟินแลนด์อยู่ถึง 100 กว่าปี

8. สวนสนุก Angry Birds Land เมือง Tampere


สถานที่ท่องเที่ยวฟินแลนด์ Angry Birds Land 1-tile
สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในฟินแลนด์ ตั้งอยู่ใน Särkänniemi Adventure Park เป็นการร่วมลงทุนด้วยเงินหลายล้านยูโร ระหว่างซาร์กันเนียร์นี กับ บริษัท โรวิโอ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ผู้พัฒนาเกมบนมือถือรายใหญ่ของฟินแลนด์ เจ้าของเกมแองกรี้เบิร์ดส์ สวนสนุกแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเล ภายในประกอบไปด้วยสิ่งปลูกสร้างที่จำลองแบบจากตัวเกมบางส่วน พร้อมด้วยเครื่องเล่นมากมายที่ให้ผู้เล่นได้สนุกสนานและเพลิดเพลินกับเกมแองกรี้เบิร์ดส์ตัวเป็นๆ จับต้องได้ท่ามกลางบรรยากาศแสง สี เสียง น้ำ และควันเหมือนกับอยู่ในเกมมือถือจริงๆ กันเลยทีเดียว  และทุกที่จะมีตัวละครจากแองกรี้เบิร์ดปรากฏให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ, ตุ๊กตา, รูปปั้นต่าง ๆ อีกทั้งยังมี ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับแองกรี้เบิร์ดส์ไว้คอยบริการอีกด้วย

9. น้ำพุธิดาทะเลบอลติก (Havis Amanda)


9 Havis Amanda
น้ำพุกลางเมืองแห่งนี้เปรียบสมือนแลนด์มาร์คของเมืองเฮลซิงกิ และยังเป็นที่มาของฉายานาม เทพธิดาแห่งทะเลบอลติกของเมืองเฮลซิงกิอีกด้วย น้ำพุนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1908 โดย นายวิลเลย์วาเกน ได้เป็นผู้ออกแบบและปั้นน้าพุเป็นรูปสาวงามโดยสมมุติให้นางเป็นตัวแทนของเมืองเฮลซิงกิ ส่วนบอลติกก็คือคาบสมุทรที่เมืองนี้ตั้งอยู่นั่นเอง     นอกจากน้ำพุแห่งนี้จะเป็นสถานที่ยอดนิยมของการมาถ่ายรูปคู่แล้ว ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับน้ำพุแห่งนี้ด้วยว่า สาวงามผู้นี้เป็นตัวแทนเสี่ยงทายสำหรับนักเรียนและนักศึกษา โดยที่ใครสามารถโยนหมวกขึ้นไปสวมบนศีรษะของรูปปั้นหญิงสาวได้ ก็จะมีอนาคตสดใสและมีหน้าที่การงานที่เจริญก้าวหน้า
เที่ยวฟินแลนด์ Havis Amanda 2

10. มหาวิหารเฮลซิงกิ (Helsinki Cathedral)


สถานที่ท่องเที่ยวฟินแลนด์ Helsinki Cathedral
มหาวิหารสไตล์นีโอคลาสสิกแห่งเฮลซิงกิ อีกหนึ่งแลนมาร์คของประเทศฟินแลนด์ นับเป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดของเฮลซิงกิ เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปีค.ศ. 1830-1852 ในอดีตเรียกว่าโบสถ์นิโคลัส เป็นมหาวิหารสีขาวหลังคาโดมสีเขียวที่มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง วิหารแห่งนี้ป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่งดงามและคลาสสิคที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่กลางเมืองเฮลซิงกิ

11.  มาร์เก็ตสแควร์ (Market Square)


สถานที่ท่องเที่ยวฟินแลนด์ Market Square1-tile
ตลาดสดกลางแจ้งใจกลางเมืองเฮลซิงกิ แหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเที่ยวชมและซื้อหาของฝากของที่ระลึกกัน ซึ่งที่นี่มีสินค้าท้องถิ่นมากมายหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาหารสดอาหารแห้งนานาชนิด ดอกไม้ ผักผลไม้ รวมถึงสินค้าพื้นเมือง สินค้างานฝีมือสวยๆ ของที่ระลึกต่างๆ

12.   โบสถ์เทมเปลิโอคิโอ (Temppeliaukio Church)


12 Temppeliaukio Church 1
หรือที่รู้จักกันในนามโบสถ์หิน (Rock Church) และอีกชื่อหนึ่งคือโบสถ์แห่งความรัก สาเหตุเพราะโบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2511และเสร็จวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของปีถัดไป มีความเชื่อกันว่าใครก็ตามที่มาจุดเทียนอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องความรักที่ โบสถ์แห่งนี้จะสมหวังในสิ่งที่อธิษฐานทุกประการ จึงทำให้มีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาจัดพิธีแต่งงานที่นี่ เพราะเชื่อกันว่าคู่รักที่มาจัดพิธีแต่งงานที่โบสถ์แห่งนี้จะครองรักกันยืนยาวจนแก่เฒ่า . . . โบสถ์หินแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมที่แปลกมาก เนื่องจากภายนอกตัวโบสถ์ดูแล้วเหมือนภูเขาหินแกรนิตเตี้ยๆที่ตั้งอยู่กลางเมืองไม่เหมือนเป็นโบสถ์เลย โบสถ์หินแห่งนี้สร้างขึ้นโดยการระเบิดชั้นหินเป็นโพรงลงไปใต้ดิน ออกแบบโดย Timoและ TuomoSuomalainenสองพี่น้องสถาปนิกชาวฟินแลนด์ ภายในโบสถ์มีการตกแต่งอย่างสมัยใหม่ กำแพงด้านในโบสถ์ สร้างด้วยหินให้เหมือนธรรมชาติ ส่วนด้านบนมีช่องระบายอากาศและโปร่งให้แสงเข้าได้ หลังคาประดับด้วยลวดทองแดงหนา 1 นิ้ว นำมาขดเป็นวงกลมใหญ่ๆประดับไว้เป็นศิลปะที่ดูแปลกตา
12 Temppeliaukio Church 2

13.  อนุสาวรีย์ซิเบลิอุส (Sibelius Monument)


13 Sibelius Monument1
อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ใน Sibelius Park ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่Jean Sibelius นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชื่อดังชาว ฟินแลนด์ซึ่งเป็นผู้แต่งเพลงฟินแลนเดีย เพลงปลุกใจชาวฟินแลนด์ให้ต่อต้านและเรียกร้องเอกราชจากรัสเซีย อนุสาวรีย์แห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ออกแบบโดย EilaHiltunen เป็นการสร้างโดยนำเอาแท่งเหล็กจำนวน 600 แท่ง มาเชื่อมเป็นรูปร่างของออร์แกนยักษ์ที่มีความสูงกว่า 80เมตร หนักถึง 24 ตัน ตั้งโดดเด่นอยู่กลางแจ้งซึ่งสามารถดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวให้เข้าไปชมและถ่ายภาพกันอย่างมากมาย ใกล้ๆ กันนั้นยังมีรูปหน้าเหมือนนักประพันธ์เพลงที่ทำจากเหล็ก ฝีมือปราณีตที่งดงามไม่แพ้กัน